วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

การใช้โปรแกรม Photoshop CS6



โครงงาน
เรื่อง
 การใช้โปรแกรม Photoshop CS6

ผู้เสนอโครงงาน

  นาย       ชาลี                         เดชศิริ           ม.6/3   เลขที่   31
                        นางสาว พรจันทร์             บุระเนตร         ม.6/3   เลขที่  18
  นางสาวฐัญญรัตน์              หาญกล้า         ม.6/3   เลขที่  19

                                    เสนอ
                    อาจารย์  วรพงษ์  สุโพธิ์

 รายวิชา       วิชาคอมพิวเตอร์
         กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
                                    (คอมพิวเตอร์)
                                            ปีการศึกษา 2558 ภาคเรียนที่2
      โรงเรียนน้ำขุ่นวิทยา






บทคัดย่อ

            รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเรียนรู้วิธีการใช้โปรแกรม สอนเฉพาะการใช้งานPhotoshop CS3 ขั้นพื้นฐาน โดยนำเสนอ อาจารย์วรพงษ์ สุโพธ์ผู้จัดทำหวังว่า รายงานฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังศึกษาในเรื่องนี้ และหวังว่า รายงานฉบับนี้ จะเป็นสื่อการเรียนการสอนอีกรูปแบบหนึ่งเพื่อให้เข้าใจถึง โปรแกรมการแต่งรูปต่างๆที่สามารถที่จะนำไปใช้ในการตัดต่อภาพได้
                              หากผิดพลาดประการใด ต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วย



บทที่1
ที่มาและความสำคัญของปัญหา
ในปัจจุบันนั้นจำนวนเทคโนโลยีมีความก้าวไกลมากขึ้นจนอาจทำให้มนุษย์เราลืมเลือนความถูกต้องในการใช้โปรแกรม หรืออาจเพราะกาลเวลามีการหมุนเวียนที่เราขึ้นและทุกนาทีมันจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ คนเราสามารถยืดเวลาให้หมุนช้าลงได้ ทุกคนต่างมีภาระหน้าที่ต้องทำ จนบางคนไม่มีวันหยุด ก็เลยไม่มีเวลาที่จะอบรมสั่งสอนบุตรให้ใช้โปรแกรมไปในทางที่ดีหรือต่างอาจจะมีบุคคลที่ลดน้อยลงไปบ้าง เราจึงมีความสนใจที่จะแก้ไขปัญหานี้ แนวทางในการแก้ปัญหา คือ เราจะเริ่มด้วยการนำเสนอเรื่องการใช้โปรแกรมที่หาดาวโหลดได้โดยไม่ต้องเสียเงิน โดยตัวแทนนักเรียนจากความถนัดในการใช้โปรแกรมต่างๆมาบรรยายให้ฟัง เพื่อที่เราจะได้เห็นข้อแตกต่างของโปรแกรมอื่นๆด้วยอื่นๆด้วย คณะผู้จัดทำจึงมีความประสงค์ที่จะจัดสร้างโครงงาน การงานอาชีพและเทคโนโลยีนี้ขึ้นมา

วัตถุประสงค์ของการจัดสร้างโครงงาน
       1.เพื่อศึกษาและดำเนินการสร้างโครงงานเรื่อง Photoshop CS6 ขั้นพื้นฐาน
        2.เพื่อให้นักเรียนเกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้โปรแกรมในทางที่ถูกมากขึ้น
        3.เพื่อที่จะให้นักเรียนสามารถเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของโปรแกรมแต่ละโปรแกรมได้
2ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
               1.ได้ศึกษาและสามารถดำเนินการสร้างโครงงานโปรแกรม  Photoshop CS6 ขั้นพื้นฐาน
               2.สามารถเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของโปรแกรมแต่ละโปรแกรมได้
  3ได้ความสามัคคีในกลุ่ม


บทที่ 2
ทฤษฎี 
ในการจัดสร้างโครงงานPhotoshop CS6 ขั้นพื้นฐาน จำเป็นจะต้องศึกษาทฤษฎีที่เกี่ยวข้องดังนี้
           - วิธีการใช้โปรแกรมเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มตัดต่อภาพ
           - ข้อดีและข้อเสียต่างๆ
วิธีการใช้งานโปรแกรม Photoshop CS6 ขั้นพื้นฐาน
หน้าตาโปรแกรม Adobe Photoshop CS6



การสร้างงานใหม่

ไปที่ File < New

 คำอธิบาย: http://linux.kr.ac.th/webresource/ani1/ani185.gif การบันทึกงาน

File > Save as
แล้วเปลี่ยนชื่อลงในช่อง File name
เลือก Format รูปภาพตามลักษณะการใช้งาน แล้วกด Save
คำอธิบาย: http://linux.kr.ac.th/webresource/ani1/ani185.gifชนิดของไฟล์ที่ใช้บ่อย
1. PSD
เป็นไฟล์ของโปรแกรม Photoshop สามารถเก็บคุณสมบัติต่างๆของการใช้งานทื่ตกแต่งไว้ได้
มีข้อดี โดยสามารถกลับมาแก้ไขไฟล์งานชนิดนี้ได้ตามต้องการ สามารถใช้คำสั่ง save as เพื่อเปลี่ยนเป็น
ไฟล์อื่นๆได้ทั้งหมดเมื่อต้องการ
2. JPG หรือ JPEG (Joint Photographics Expert Group)
เป็นไฟล์ที่รู้จักกันในการใช้บนอินเทอร์เน็ต เพราะไฟล์มีขนาดเล็ก การบันทึกภาพยังรักษาคุณภาพให้อยู่
ในเกณฑ์ที่รับได้
3. TIFF
นิยมใช้ในงานออกแบบสิ่งพิมพ์ที่ต้องการงานคุณภาพสูง ไฟล์มีขนาดใหญ่ ทำให้สิ้นเปลืองพื้นที่ในการเก็บมาก
4. EPS
เป็นไฟล์คุณภาพสูงแสดงผลได้ดีในระบบงานพิมพ์ ใช้การประมวลผลแบบ Vector
5. GIF (.gif) Graphic Interchange Format
เป็นไฟล์ที่ใช้กันมากบน Internet เพราะเป็นไฟล์ที่มีขนาดเล็กสะดวกในการส่ง-ถ่ายข้อมูล

คำอธิบาย: http://linux.kr.ac.th/webresource/ani1/ani185.gif การบันทึกงานเดิมเป็นอีกชื่อนึง หรืออีกไฟล์นึง
ไปที่เมนู File < Save as

คำอธิบาย: http://linux.kr.ac.th/webresource/ani1/ani185.gif การปิดโปรแกรมการใช้งาน
ก่อนปิดการใช้งานนั้นหากเราต้องการบันทึกงานก็จัดการบันทึกให้เรียบร้อย ก่อนที่จะสั่งปิดดังนี้
ไปที่เมนู File < Exit

คำอธิบาย: http://linux.kr.ac.th/webresource/ani1/ani185.gif การเปิดใช้งานที่ Save ไว้ 
ไปที่เมนู File < Open

คำอธิบาย: http://linux.kr.ac.th/webresource/ani1/ani185.gif การปริ้นท์ภาพ 
ไปที่เมนู File < Print

คำอธิบาย: http://linux.kr.ac.th/webresource/ani1/ani185.gif การตั้งค่าหน้ากระดาษ เช่น ต้องการให้กระดาษเป็นแนวนอน
ไปที่เมนู File < Page Setup...
คำอธิบาย: http://linux.kr.ac.th/webresource/ani3/ani392.gifสิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้งาน Photoshop

1. ความละเอียดของภาพ (Resolution)
ค่าความละเอียดของภาพ มีหน่วยเป็น Pixels ต่อตารางนิ้ว ซึ่งหากค่าความละเอียดมาก จำนวนพิกเซลก็จะมากตามไปด้วย และทำให้ภาพมีคุณภาพมากขึ้น สามารถตรวจสอบได้ โดยคลิกที่เมนู Image –> Image Size

 


2. เลเยอร์ (Layers)
การตกแต่งภาพตั้งแต่สองภาพขึ้นไปบนหน้าผลงานเดียวกันใน Photoshop จะอาศัยการซ้อนภาพเป็นชั้นๆ เรียกว่า เลเยอร์ (Layers)




3. โหมดสีที่สำคัญ (ไปที่เมนู Image < Mode)
โหมดสีมีหลายชนิดและมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละประเภท แต่ถ้าจะกล่าวถึงโหมดที่นิยม และมีผู้ใช้กว้างขวางที่สุดก็จะมีอยู่ ดังนี้
Grayscale
เป็นโหมดสีขาว/ดำ ที่ให้เฉดสี 256 สี มีการไล่โทนน้ำหนักแสงเงา เหมาะกับงานออกแบบสีเดียว สามารถนำไปเปลี่ยนเป็นสีอื่นแทนสีดำได้เมื่อเข้าสู่ระบบการพิมพ์ ไฟล์ภาพมีขนาดเล็กกว่าไฟล์ขาว/ดำชนิดอื่นๆ



Duotone
เป็นภาพที่มีสีมากกว่าแบบขาว/ดำ สามารถใช้สีได้สองโทนสีมาผสมกัน เหมาะกับงานที่ต้องการสีสัน แต่ใช้ต้นทุนการพิมพ์ไม่มาก


RGB Color
เป็นโหมดสีที่นิยมใช้กันมาก สามารถพบได้จากภาพถ่ายดิจิทัล งานออกแบบที่แสดงผลทางจอมอนิเตอร์ สีกลุ่มนี้เกิดจากการผสมของแม่สีแสง ได้แก่ สีแดง (Red) สีเขียว (Green) และสีน้ำเงิน (Blue)  


CMYK Color
เป็นโหมดสีที่ใช้ในระบบงานพิมพ์ ประกอบด้วยสีสี่สี คือ สีฟ้า (Cyan) สีชมพูบานเย็นหรือชมพูม่วง (Magenta) สีเหลือง (Yellow) และสีดำ (Black) ในระบบงานพิมพ์มักจะเรียกว่า พิมพ์สี่สี ซึ่งก็คือการใช้แม่สีสี่สีนี้มาซ้อนกันจนเกิดเป็นสีใหม่มากมาย ที่ทำให้ได้ภาพสีสันสมจริงขึ้นมา



การปรับรูปทรงของภาพ (Transform)

ขั้น ตอนในการปรับรูปทรงของภาพ
1. คลิกที่เมนูหลักเลือก Edit > Transform
2. คลิกเลือกคำสัง่ ปรับรูปทรง
คำสัง่ ในการปรับรูปทรง มีดังนี้
• Scale : ปรับขนาด
• Rotate : หมุนภาพ
• Skew : บิดด้านหรือมุมของภาพไปตามแนวกรอบด้านใดด้านหนึ่ง
• Distort : บิดด้านหรือมุมของภาพไปตามแนวอย่างอิสระ
• Perspective : บิดภาพให้เกิดสัดส่วนแบบใกล้ไกล
Warp : บิดและดึงส่วนต่าง ๆ อย่างอิสระ

บทที่ 3
ขั้นตอนวิธีการศึกษา
ในการศึกษาโครงงานโปรแกรมมีวิธีการตัดต่อวีดีโอมีการศึกษา ดังนี้
3.1 วิธีการศึกษา
          ก่อนจะจัดทำรายงานเล่มนี้ให้ออกมาเป็นรูปเล่ม เราต้องหาหัวข้อของแต่ละโปรแกรมมาเปรียบเทียบกันก่อน หาข้อแตกต่างข้อที่คล้ายกันแตกสาขาออกมา หาความหมาย หาวิธีการตามเว็บไซค์หรือตามหนังสือ นำมาพิมพ์ลงทำเป็นข้อมูลของแต่ละบทแต่ละหัวข้อแตกต่างกันไป ใช้เวลาเพียงไม่นานเราจะได้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรแกรมมีวิธีการตัดต่อภาพ เราต้องใช้ความเข้าใจในแต่ละโปรแกรมและนำมาเปรียบเทียบแล้วบรรยายเป็นบทความโดยใช้คำพูดของเราเอง ปรึกษาหารือถกเถียงกับเพื่อนๆในห้องหรือู้ปกครองถึงข้อแตกต่างที่จะนำมาเปรียบเทียบ อ่านข้อมูลของแต่ละโปรแกรมให้เข้าใจอย่างแจ่มชัดแล้วถึงนำมาบันทึกเป็นข้อมูลในหัวข้อความแตกต่างของแต่ละโปรแกรม
3.2 การสรุปผลการศึกษา
            เมื่อเราได้ข้อมูลตามที่ต้องการหรือมากพอจะทำเป็นรูปเล่มแล้ว เราก็จะได้เล่มรายงานที่สมบูรณ์พร้อมนำเสนอความรู้ที่มีอยู่ในเมให้แก่บุคคลทั่วไปหรือบุลคลที่สนใจและอยากศึกษา จากการสร้างเล่มรายงานเรื่องโปแกรมมีวิธีการตัดต่อวีดีโอนี้จะทำให้เข้าใจในแต่ละโปรแกรมที่มีอยู่หลายโปรแกรมทั่วโลกมากขึ้น รู้ถึงประวัติความเป็น กฏข้อบังคับ วิธีของแต่ละโปรแกรม สามารถเปรียบเทียบด้วยตนเองได้ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร และรายงานเล่มนี้สามารถให้ความรู้แก่บุคคลทั่วไปและบุคคลที่สนได้ไม่มากก้น้อยเลยทีเดียว





บทที่ 4
ผลของการเปรียบเทียบ
4.1 การเปรียบเทียบ
            หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเป็นมาเป็นมาของแต่ละโปรแกรม ได้รู้ทั้งเรื่องวิธีของแต่ละโปรแกรมในการแต่งรูป การได้เรียนรู้ถึงข้อดีและข้อห้าม คำสอน ความสวยงามของแต่ละโปรแกรมจนลึกซึ้งแล้วนั้น ก็สามารนำมาเปรียบเทียบแบ่งแยกได้เลยว่า โปแกรมของแต่ละโปรแกรมมีประโยชน์อะไร มีทริปอะไรในโปรแกรมการแต่งรูปบ้างมีอะไรบ้างต่างกันอย่างไร วิธีการของแต่ละโปรแกรมเหมือนกันต่างกันอย่างไร ข้อห้ามต่างๆของแต่ละโปรแกรมมีอะไรบ้างต่างกันอย่างไร เราสามารถเข้าใจเรื่องศาสนาที่แตกต่างกันแบบนี้ได้ด้วยการศึกษาค้าคว้าและทำความเข้าใจ
4.2 ผลของการเปรียบเทียบ
            จากที่เรารู้รายละเอียดแค่เพียงเบื้องต้นว่ามีโปรแกรมมีวิธีการตัดต่อภาพนี้อยู่บนโลก มีวิธีการมีวิธีการตัดต่อภาพแบบนี้ มีความเชื่อแบบนี้ เรารู้แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นกับโปรแกรมที่เราไม่ได้นับถือ เรารู้แค่เรื่องของโปรแกรมที่เรานับถือเท่านั้น แต่หลังจากที่เราได้อ่านได้รู้รายละเอียดเพิ่มเติมและศึกษาให้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง มันก็ทำให้เรารู้เรื่องของโปรแกรมอื่นเพิ่มมากขึ้นเข้าใจโปรแกรมอื่นมากขึ้น รู้ถึงข้อแตกต่างของแต่ละโปรแกรมเป็นอย่างดี ฉะนั้นจากการที่เราลองเปรียบเทียบด้วยตนเองตามหลักที่ถูกต้อง มันจะทำให้เราซึมซับเข้าใจถึงแก่นแท้และจำไว้ บางคนสนใจในโปรแกรมที่ตัวเองเพิ่งรู้จัก หลงใหลไปกับวิธีการที่ไม่ใช่วิธีการทางโปรแกรมของตน และบางคนอาจจะเข้าใจเรื่องโปรแกรมอื่นมากกว่าโปรแกรมที่ตัวเองนับถือมาตั้งแต่กำเนิดจนต้องเปลี่ยนโปรแกรมไปเลยด้วยซ้ำ ผลของการเปรียบเทียบจึงมีคุณค่ามากในหลายๆด้าน ทั้งด้านจิตใจ ด้านปัญญาและด้านวิชาการที่จะนำไปบอกเล่าและศึกษาต่อ


บทที่ 5
อภิปราย
            การเรียนรู้เป็นสิ่งที่ติดตัวคนทุกคนมาตั้งแต่เกิด ทุกคนล้วนต้องมีการเรียนรู้ เกิดมาเราก็มีการเรียนรู้อยู่แล้วคือเราใช้โปรแกรมตามที่เรารู้จักตามญาติพี่น้องตอนเราเกิดมายังไม่มีสิทธิเลือกว่าอยากเรียนรู้ในรูปแบบบไหนอยากนับถือการเรียนรู้แบบไหน คนส่วนใหญ่จะนิยมใช้ตามที่พ่อแม่เรานิยมใช้ จะมีส่วนน้อยที่เลื่อมใสในการเรียนรู้อื่นมากกว่าที่พ่อแม่นับถือก็อาจจะเปี่ยนไปนับถือโปรแกรมอื่นแทน ไม่ผิดกฏหมายเพราะเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคล ทุกคนมีสิทธินับถือโปรแกรมอะไรก็ได้ บางคนนับถือโปรแกรมนี้มาตั้งแต่เพิ่งเรียนรู้ใหม่ จนอาจจะทำให้เรามีความถนัดในโปรแกรมนี้มากกว่าโปรแกรมอื่นๆก็เป็นไปได้ จากการศึกแต่ละความเป็นมาของแต่ละโปรแกรมทำให้เราได้รู้ว่าควรใช้โปรแกรมในทางไหน และมันมีข้อดีและข้อเสียอย่างไร กว่าที่เราจะเชื่อใจในกรใช้โปรแกรมซึ่งเราก็ได้ยกตัวอย่างข้อดีมาให้ดูกัน
                    1.ทำให้เรามีวิธีการตัดต่อภาพได้ตามใจชอบ
                    2.ทำให้เรามีการเรียนรู้ใหม่เกิดขึ้น
                    3.ทำให้เราสะดวกมากขึ้น
                    4.ทำให้เราสนุกกับโปรแกรมที่ทำให้เราเพลินได้
                    5.ทำให้เราเกิดการเรียนรู้ใหม่
            การที่เราอยากจะเข้าใจแก่นแท้ของโปรแกรมแต่ละโปรแกรมนั้นไม่ยากเหมือนคนแต่ก่อนแล้ว ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากในปัจจุบันทำให้เราอยากรู้อะไรก็ได้รู้อยากลองอะไรก็ได้ลอง ยังไงแล้วความรุ้ก็อยู่ติดตัวกับเราไปจนวันตายไม่มีวันหายไป เพราะการเรียนรู้เกิดขึ้นมาพร้อมกับโลก ที่ยังอยู่ได้ก็เพราะความเชื่อของเรานั้นเอง ฉะนั้นเพียงเราศึกษาโปรแกรมต่างๆให้มากขึ้น หาข้อเปรียบเทียบต่างๆของแต่ละโปรแกรมให้มากขึ้น มันจะทำให้เราเข้าใจในสิ่งต่างๆมากขึ้นอีกด้วย


 บรรณานุกรม
http://kamonthanus55191030101.blogspot.com/2014/11/corel-dvd-blu-ray-2-corel-videostudio.html
http://www.pasaangkit.com/reflexive-pronoun/